ขอความสุขคนไทย กลับคืนมา


ถึงสูงศักดิ์อัครฐาน สักปานใด ถึงวิไลเลิศฟ้า สง่าศรี ถึงฉลาดกาจกล้า ปัญญาดี ถ้าไม่มีคุณธรรม ก็ต่ำคน


*** ทางเวปไซท์ขอสงวนสิทธิ์ที่จะลบความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกับเวปไซท์นี้ ***


วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

แม้ว มันสั่งได้ทุกอย่าง จริงๆ ไม่รู้ว่าเชือกที่ใช้จูงจมูกเสื้อแดง ลงคาถาอะไรไว้ พระสงฆ์ยังโดนของเลย

สั่งยึดศาลากลาง! แม้วกุข่าวจับแกนนำปลุกคนต่างจังหวัดช่วยม็อบไพร่

22 มีนาคม 2553 - 00:00

สบช่องทำมาหากิน แกนนำ นปช.ยึดราชดำเนินแบ่งโซนขายของถนนคนเดิน แฉกันเองข้องใจไม่บอกเอาเงินขายของเข้ากระเป๋าใคร ศอ.รส.ทำตะลึง ม็อบล้อมกรุงเทพฯ แรงกว่าที่คิด 3.5 หมื่นคน เปิดเส้นทางให้จัดงานกาชาดสวนอัมพรตามคาด "ขวัญชัย" อ้าง "หลวงตาบัว" หนุนเรดเชิ้ตให้ 3 หมื่นค่าน้ำมัน ยันล้อมมาร์คหากประชุม ครม.ทำเนียบฯ อังคารนี้

ความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งชุมนุมเป็นวันที่ 9 แล้ว พบว่ายังคงมีประชาชนมาร่วมชุมนุมกันระดับหนึ่งท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ

สำหรับความเคลื่อนไหวทั่วๆ ไป ในช่วงบ่าย พระสงฆ์กลุ่มพระสังฆสามัคคี จำนวน 30 รูป ได้ขึ้นเวทีปราศรัย นปช.เป็นครั้งที่ 5 และออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลยุติการใช้สื่อของรัฐสร้างความแตกแยกในสังคม โดยระบุว่ารัฐบาลใช้สื่อของรัฐ ทั้งช่อง 9 ช่อง 11 และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ สร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกในสังคม นอกจากนี้ องค์กรอุบาสกอุบาสิกาชาวพุทธแห่งประเทศไทยยังได้ร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลคืน อำนาจให้แก่ประชาชนโดยการยุบสภา

เวทีเดียวกันนี้ นายวรพล พรหมิกบุตร นักวิชาการตัวแทนคณะนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธี (คปส.) กล่าวช่วงหนึ่งบนเวทีปราศรัยว่า ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมกลายเป็นอุดมการณ์ของสังคมไปแล้ว ซึ่งไม่ใช่ประชาชนในต่างจังหวัดเท่านั้นที่ให้การตอบรับ แต่ยังรวมถึงคน กทม.ที่ให้การตอบรับเข้าร่วมการชุมนุมกับคนเสื้อแดงอีกด้วย ซึ่งหากมีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก เชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ชุมนุมปักหลักขึงพืดอยู่ตรงนี้เพื่อไม่ให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ส่วนนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดร ขึ้นปราศรัยว่า หลวงตามหาบัวมอบพระเพื่อนำมาให้แกนนำเสื้อแดง 100 องค์ และช่วยค่าน้ำมัน 30,000 บาทอีกด้วย เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมาตนได้นำคนอุดร 200 คนไปตักบาตรกับหลวงตา ดังนั้นเชื่อว่าขณะนี้หลวงตาเห็นแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เพราะทุกวันนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เข้าวัดไม่ได้แล้วเพราะหลวงตาไม่ยอมให้พบ

ส่วนที่ป้อมมหากาฬ นายวิสา คัญทัพ พร้อมด้วยกลุ่มจิตรกรและศิลปินคนเสื้อแดง ได้ร่วมกันเขียนป้ายผ้าด้วยเลือดที่เหลือจากการเทบริเวณทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ และบ้านพักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเขียนป้ายที่มีความยาวถึง 10 เมตร จำนวน 7 ผืน เพื่อนำมาขึงล้อมรอบป้อมมหากาฬ

นายไม้หนึ่ง อิสระนาวี ศิลปินเสื้อแดง กล่าวว่า จะมีการเปิดรับสมัครคนเสื้อแดงจำนวน 40 คนเพื่อมาร่วมกันเขียนป้ายผ้า ซึ่งเลือดที่นำมาใช้นั้นเป็นเลือดที่มีการเจาะตั้งแต่ครั้งแรกที่เหลืออยู่ ประมาณ 40,000 ซีซี และจะมีการนำเลือดไปผสมกับปูนซีเมนต์เพื่อนำไปหล่อเป็นหลักเมืองและนำไปปัก ไว้ทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ นอกจากนี้จะนำเลือดไปหล่อรวมกับวัสดุเพื่อทำเป็นรูปปั้นนายนวมทอง ไพรวัน โชเฟอร์แท็กซี่ที่ขับรถชนรถถัง ก่อนที่จะนำไปตั้งไว้บริเวณบ้านสี่เสาเทเวศร์ นอกจากนี้จะมีการนำเลือดไปผสมกับเรซิ่นเพื่อทำเป็นหัวแหวนให้กับผู้ชุมนุม เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกอีกด้วย สำหรับเลือดที่นำมาเขียนบทกวีและวาดภาพที่ขณะนี้เริ่มมีกลิ่นเหม็นเนื่องจาก ถูกเก็บไว้หลายวัน แต่ไม่ว่าเลือดจะเน่าหรือเสียก็ถือเป็นสิ่งที่มีค่า เพราะเป็นเลือดไพร่ที่เจาะมาโดยสันติวิธี

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ได้รับข้อมูลว่าการประชุมของทหารที่ ร.11 รอ. มีการหารือเกี่ยวกับด้านไอทีโดยมีเป้าหมายงดออกอากาศสถานีพีเพิลแชนแนล และทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้ารัฐบาลจะมากวนสัญญาณจนออกอากาศไม่ได้ก็จะมีประชาชนนับล้านหลั่งไหลเข้า ประเทศ และตั้งแต่ 22 มีนาคม 2553 คนเสื้อแดงจะตั้งหน่วยเสื้อแดงประกบกับทหารที่มารักษาการณ์ในบริเวณการ ชุมนุมแบบตาต่อตาเต็นท์ต่อเต็นท์ หากทหารจะตรวจสอบวัตถุหรืออาวุธใดๆ ของคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็ขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบทหารเช่นกัน

ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ได้รับข้อมูลว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้ อบต.ทั่วประเทศจัดงบประมาณ 1 แสนบาทเพื่อเกณฑ์ประชาชนให้มาชุมนุมหน้าศาลากลางแต่ละจังหวัด โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการปกป้องสถาบันและต่อต้านคนเสื้อแดง เป็นการกระทำที่เลวที่สุด ถ้าทำต่ออีกเจอดีแน่

นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า พรุ่งนี้เวลา 10.00 น.จะมีการประชุมผู้ประกอบการสินค้าโอท็อปเพื่อจัดทำเป็นถนนคนเดิน โดยเบื้องต้นมีผู้ประกอบการแจ้งความจำนงแล้วประมาณ 200 ร้านค้า ดังนั้นหากไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะใช้พื้นที่บริเวณราชดำเนินนอก ยาวไปจนถึงแยกหลานหลวง

รายงานข่าวแจ้งว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงด้วยกันเองว่าแนวคิดการจัดตั้ง ถนนคนเดินของคนเสื้อแดงนั้น แม้จะเป็นแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้ผู้มาร่วมชุมนุมได้ซื้อของกินของใช้ในราคาถูก แต่ขณะนี้มีข่าวลือหนาหูว่าแกนนำบางคนให้ลูกน้องเตรียมนำสินค้าของตนเอง เช่น จานดาวเทียมพีเพิลแชลแนล มาจำหน่วยในงานดังกล่าวด้วย โดยไม่มีการแจ้งรายละเอียดว่ารายได้หลังจากการขายสินค้าได้นั้นจะนำมาร่วม กับการต่อสู้ของคนเสื้อแดงหรือเข้ากระเป๋าของต้วเอง

ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอตคอมว่า "วันนี้ผมขอขอบคุณ spirit นักสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมของพี่น้องเสื้อแดง และกับการตอบรับของพี่น้อง กทม. ผมเห็นแล้วอดน้ำตาซึมไม่ได้ สุดๆ ครับ ตอนนี้ตีสองครึ่งแล้วพี่น้องยังอยู่ฟังปราศรัยที่ผ่านฟ้าฯ จำนวนมากด้วยความคึกคัก ดูไม่ง่วงนอนกันเลย บางคนเพิ่งเลิกงานตอนดึกก็แวะมาร่วมด้วย น่ารักมาก"

วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เข้าเจรจากับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ด้านหลังเวทีผ่านฟ้าฯ เพื่อขอให้เปิดเส้นทางการชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปฯ เพื่อให้เริ่มการก่อสร้างซุ้มงานกาชาด ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-7 เม.ย. ซึ่งการเจรจาเป็นไปด้วยดี โดยนายจตุพรระบุว่า ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนย้ายออกจากลานพระบรมรูปฯ และถนนอู่ทอง โดยจะย้ายมาชุมนุมบริเวณถนนพิษณุโลกข้างทำเนียบรัฐบาล ยาวไปถึงสะพานนางเลิ้ง แต่จะเปิดทางให้มีการขายตั๋วของสนามม้านางเลิ้ง และจะไม่ปิดเส้นทางการจราจร โดยจะอยู่ 2 ฝั่งของถนน เชื่อว่าจะไม่กระทบกับประชาชนที่สัญจรทั่วไปและขบวนเสด็จฯ รวมทั้งจะย้ายมาชุมนุมอยู่ที่ข้างกระทรวงศึกษาธิการ บริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษมถึงแยกประชาเกษม โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ และจะให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

นายจตุพรกล่าวถึงการประชุม ครม.ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ว่า หากนายกฯ มาประชุม ครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล เสื้อแดงก็จะไปแสดงตัวเพื่อเรียกร้องกับนายกรัฐมนตรี แต่จะไม่มีการปิดทางเข้า-ออก และไม่มีใครจะไปทำร้ายนายกฯ โดยจะไปปักหลักอยู่ที่ถนนพิษณุโลกทั้งเส้น แต่หากเปลี่ยนสถานที่ประชุม ครม.ไปใช้ที่อื่นก็จะตามไปที่นั่น

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศอ.รส.ว่า จากการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2553 ที่มีการเคลื่อนขบวนไปรอบ กทม.ว่ามี 65,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าที่ ศอ.รส.ได้คาดการณ์เอาไว้อยู่ที่ประมาณ 30,000 คน ทั้งนี้การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่ม 6,000 คน เป็นคนต่างจังหวัด ส่วนที่เหลือเป็นคน กทม. โดยส่วนใหญ่มีความเป็นไปได้ที่เป็นมวลชนที่มาจากการจัดตั้งของกลุ่มหัวคะแนน ของพรรคการเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะบรรดาวินมอเตอร์ไซค์ ส่วนการประชุม ครม.ที่จะมีขึ้นนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดสถานที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายอภิสิทธิ์จัดรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" โดยกล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า บ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้ารัฐบาลก็ต้องบริหาร ปัจจุบันรัฐบาลก็บริหารโดยอาจจะเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนอะไรไปก่อน แต่ไม่ทำอย่างนี้ตลอดไปแน่นอน ที่เป็นห่วงก็คือรูปแบบการชุมนุม ซึ่งแม้ว่าจะบอกว่าเป็นการชุมนุมอย่างสงบ แต่ก็ประกาศชัดเจนว่าจะขัดขวางการปฏิบัติงาน ทั้งที่การกระทำดังกล่าวมันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่สิทธิของตนเพียงคนเดียว แต่เป็นสิทธิของคนไทยทั้งประเทศที่จะต้องได้รับการดูแลในแง่การบริหารงาน ต่างๆ

"ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ประชาชนก็ยังมีความวิตกกังวลอยู่เกี่ยวกับสถานการณ์ของการชุมนุมและการ บริหารจัดการ ยืนยันว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไปคือรัฐบาลจะพยายามที่จะพูดคุยกับผู้ชุมนุม ทำอย่างไรให้เราสามารถที่จะให้งานต่างๆ เดินได้ตามปกติ ส่วน พ.ร.บ.ความมั่นคงที่จะครบกำหนดมีการประเมินว่าจะมีการต่ออายุในเรื่องของการ ประกาศพื้นที่ความมั่นคงหรือไม่ ถ้าหากยังมีการชุมนุมซึ่งมีคนจำนวนมากอยู่ ก็คงจะประกาศต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ว่าจะพยายามให้เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ประกาศล่วงหน้านานจนเกินไป แต่จะมีพื้นที่จำกัดลงมาเพราะสถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไประดับหนึ่งแล้ว นอกจากนั้นการคืนพื้นที่ก็จะขอความร่วมมือผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่องเช่นเพื่อ งานกาชาด จะมีการเดินหน้าในการพูดคุยเจรจา ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนไม่ว่าจะเป็นพี่น้องในชุมชนใกล้เคียง พี่น้องที่ชุมนุมอยู่ คนเสื้อแดง พี่น้องประชาชนทั่วไปช่วง 7-8 วันที่ผ่านมาเป็นบรรยากาศที่ดี ซึ่งมีการหลีกเลี่ยงในการที่จะทำให้เกิดสถานการณ์ของการเผชิญหน้า" นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรีย้ำในตอนท้ายว่า สัปดาห์ถัดจากนี้ไปรัฐบาลจะพยายามดำเนินการเพื่อที่จะนำภาวะของบ้านเมือง นั้นกลับเข้าสู่ความเป็นปกติ จะใช้วิธีการพูดคุย ถ้าถูกปฏิเสธการพูดคุยก็จะมีการบังคับใช้กฎหมาย จะเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย

เมื่อเวลา 20.45 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงค์มาบนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยช่วงต้นได้กล่าวโจมตีนายอภิสิทธิ์ ซึ่งระบุว่าเป็นคุณฉอเลาะ ที่พูดได้ทั้งวัน พูดไม่รู้เรื่อง ไม่ฟัง แต่แนวโน้มจะเล่นงานพวกเรามากกว่า โดยได้ข่าวว่า 2-3 วันนี้จะมีการจับแกนนำ นปช.

พ.ต.ท.ทักษิณยังวนเวียนพูดเรื่องความยุติธรรมและเรียกร้องเรื่องอำมาตย์ และที่สำคัญได้ปลุกมวลชนว่า สัปดาห์หน้าเป็นสัปดาห์สำคัญ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 มี.ค.เป็นต้นไป อยากให้ชวนกันมาเยอะๆ รวมกันเป็นปึกแผ่นไว้ ถ้าเรามากันน้อยไม่มีทางได้ประชาธิปไตย ฝากพี่น้องต่างจังหวัดด้วยว่า ไปตั้งดาวเทียมดูพีเพิลแชนแนลที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด จะได้ออกมาช่วยเหลือพี่น้องของพวกเราที่นี่ ใครมาไม่ได้ก็ไปศาลากลางจังหวัด จะได้ช่วยคุ้มครองพี่น้องที่อยู่ที่ กทม. "เราต้องกระจายกำลังกันตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ไม่อย่างนั้นเราจะถูกปิดประตูตีแมว เพราะสื่อประเทศไทยวันนี้ โดยเฉพาะสื่อทีวีของรัฐบาล เหมือนสื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ไปแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

นายวีระกล่าวว่า เห็นข่าวว่ารัฐบาลจะหาทางกำจัดผู้ชุมนุม หากจะทำก็ขอให้มาทำแกนนำ นปช. เพราะพร้อมรับอยู่แล้ว แต่ขอเตือนว่าไฟจะลุกท่วมทุกตารางนิ้วของประเทศไทย.

1 ความคิดเห็น:

  1. อย่าคิดมากค่ะ อย่างนั้นไม่ได้เรียกว่าพระสงฆ์ เพราะสิ่งที่กระทำไม่ใช่กิจของสงฆ์ เป็นแค่คนห่มเหลืองเท่านั้น

    ตอบลบ