เหวง โตจิราการ -- จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นายแพทย์ เหวง โตจิราการ (1 เมษายน พ.ศ. 2494) แกนนำแนว ร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน แกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย อดีตนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทย ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ยุค 14 ตุลา พ.ศ. 2516 เคยหนีเข้าป่าในยุค "ขวาพิฆาตซ้าย" 6 ตุลา พ.ศ. 2519 มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายเข้ม" และมีสายสัมพันธ์อันดีกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นศิษย์ผู้พี่
นพ.เหวงกลับมามีบทบาทในเวทีการเมืองภาคประชาชนอีกครั้ง ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 จากการเป็นแกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย ร่วมกับ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ และนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ เคยร่วมกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองในการเคลื่อนไหวต่อต้าน พล.อ.สุจินดา คราประยูร จนเป็นผลสำเร็จ
เมื่อ พ.ศ. 2549 เคยขึ้นเวทีปราศรัยต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นผู้ร่วมคัดค้านรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ต่อมาหลังการรัฐ ประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 นพ.เหวง ได้ทำการประท้วงต่อต้านคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ซึ่งได้ทำการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ. 2540 โดยเข้าร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ขึ้นเวทีปราศรัยต่อต้าน คปค. ซึ่งแปรสถานะเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
นพ.เหวง ถูกรัฐบาลควบคุมตัววันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2552 ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดงและก่อการจลาจลในประเทศจากเหตุการณ์ความไม่สงบของ กลุ่ม นปช. เมษายน พ.ศ. 2552 และได้รับการปล่อยตัวในอีก 1 เดือนถัดมา
ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ ผศ.ภกญ.ธิดา ถาวรเศรษฐ์ มีบุตรธิดา 2 คน ชื่อ น.ส.มัชฌิมา โตจิราการ และนายสลักธรรม โตจิราการ
ปัจจุบัน นพ.เหวง ร่วมเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งมีการปรับโครงการการบริหารใหม่ให้มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น และจัดรายการ คุยกับหมอเหวง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.00 - 22.00 น. ทางสถานีประชาชน พีเพิลแชนแนล
สแลง
คำว่า "เหวง" กลายมาเป็นศัพท์สแลงของหมู่นักนิยมเล่นอินเตอร์เน็ท อันหมายถึง ผู้ที่พูดไม่รู้เรื่อง ซึ่งมาจากการที่ในระหว่างการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ แดงทั้งแผ่นดิน พ.ศ. 2553 ซึ่ง นพ.เหวงเป็นหนึ่งในสามแกนนำของของกลุ่ม นปช. เข้าเจรจาขอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรียุบสภาภายใน 15 วัน ซึ่งบทบาทของ นพ.เหวงถูกมองว่าพูดไม่รู้เรื่องในการเจรจาครั้งนั้น จึงเป็นที่มาของศัพท์สแลงดังกล่าว ในเรื่องนี้เจ้าตัวบอกว่า ชื่อของตัวนั้นแผลงมาจากภาษาจีนที่หมายถึง สว่างไสว แม้ศัพท์คำว่า "เหวง" ในพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถานแปลว่า "มาก" โดยใช้เป็นคำใช้ประกอบคำ เช่น เบา เป็น เบาเหวง หมายความว่าเบามาก และเมื่อขยายความเพิ่มเติมพบว่า ในภาษาเขมรนั้น คำว่า "เหวง" แปลว่า "หลงทาง" เช่น "ขะยมอัมเหวง" แปลว่า "ดิฉันหลงทาง" ก็ตาม[2]พร้อม กับตำหนิผู้ที่ใช้คำนี้ด้วย พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้พูดรู้เรื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น